วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การผลิตรองเท้า

รับสอนออกแบบรองเท้า รับออกแบบดีไซน์ตัดแบบแพทเทิร์นรองเท้า รับงานออกแบบฟรีแลนด์รองเท้า รับเป็นที่ปรึกษาสำหรับผู้ทำธุรกิจรองเท้า รับออกแบบกราฟฟิคหน้าผ้ารองเท้า พื้นรองเท้า สอนรองเท้าใด้ทุกแนวเช่น รองเท้าแฟชั่นส้นสูง ส้นต่ำ รับสอนออกแบบรองเท้า ตัดแบบรองเท้า ดีไซด์รองเท้าทุกประเภท ตั้งแต่ขั้นเบสิค ถึงขั้นสูง ท่านจะใด้เรียนตั้งแต่เรื่องหุ่น การหาสัดส่วน การหาตำแหน่งแพทเทิร์น การวาดแบบ การดีไซน์ การเกรดแบบย่อขยายเบอร์ต่างๆ การสร้างแบร์นด์ การเริ่มต้นทำงานรองเท้า การหาแหล่งวัตถุดิบ ผ้า พีวีชี อะหรั่ย การสร้างโรงงานผลิต เราสอนให้ท่านใด้หมด หลักสูตรเรียนตามความชอบ อยากจะทำรองเท้าแนวใหนเราก็ช่วยสอนท่านใด้ จะใช้คอมในการออกแบบก็ใด้ เรายังรับเป็นที่ปรึกษาสำหรับคนจะเริ่มทำธุรกิจรองเท้า ที่ยังไม่รู้จะเริ่มจากจุดใหน การติดต่อโรงงาน การหาแหล่งผลิต อุปกรณ์ อะหรั่ย ผ้า พีวีชี การออกแบบผลิตภันฑ์ตัวสินค้า การสร้างแบร์นตัวเอง การการสร้างโรงงานผลิตเอง เราอาจจะช่วยท่านใด้ไม่มากก็น้อย สำหรับผู้จะสนเรียนท่านจะใด้รับการสอนแบบสิ่งที่ท่านต้องการ หลักสูตรไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับผู้มาเรียน เนื่องจากงานรองเท้าค่อนข้างละเอียด ด้วยประสพการณ์ทำงานออกแบบรองเท้ามา10กว่าบริษัท ผ่านแบร์นต่างมาหลายแบร์น เรายังมีวิทยากรรับเชิญจากบริษัทผลิตรองเท้าชื่อดังมาติวท่านให้ในเรื่องการ ออกแบบดีไซด์รองเท้า สนใจรองเท้าแนวแฟชั่นเราก็มี รองเท้าแตะเราก็มี รองเท้าผ้าใบเราก็มี จะเรียนแบบพอรู้ หรือ จะเรียนแบบมืออาชีพเราก็สามารถสอนท่านใด้ เรายังบริการช่วยท่านให้ว่ายน้ำเป็น เอาตัวรอดใด้ เรายังรับจ๊อบฟรีแลนด์ออกแบบ ตัดแบบ ดีไซด์รองเท้า รับเกรดแบบย่อขยายเบอร์ต่างๆทุกชนิดครับ โทรมาคุยก่อนใด้ครับ เราไม่เอาเปรียบลูกค้า เรามีความจริงใจในการทำงานครับ มนัส 0879767147

http://search.yellowpages.co.th

การผลิตจักรยาน

ข้อมูลการเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถจักรยาน Bianchi ให้สมาชิกและผู้ที่สนใจไว้เป็นข้อมูลนะครับ ทาง TCA ได้รับเชิญจากทาง Bianchi ให้ไปดูสายการผลิตของจักรยาน ที่เริ่มขึ้นแล้วและจะทะยอยส่งมอบให้กับตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ

Bianchi มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานถึง 120 ปี ผลิตจักรยานสนองต่อความต้องการของผู้คนทั้งในยามสงบและยามสงคราม ดังนั้น Bianchi นอกจากจะเป็นรถชั้นดีที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่าศตวรรษแล้วมันยังเป็นตำนานของจักรยานอีกด้วย ปัจจุบัน Bianchi อยู่ภายใต้การบริหารของ Cycleurope ยักษ์ใหญ่ของวงการจักรยานในทวีปยุโรปที่มีฐานการเงินที่เหนียวแน่นมั่นคงทำให้ Bianchi สามารถก้าวเดินได้อย่างมั่นคงและคิดค้นสิ่งใหม่ๆมาสนองต่อความต้องการทั่วโลก

Mr. Edoardo Bianchi ได้ก่อตั้งโรงงานจักรยานเล็กๆ เมื่อปี ค.ศ. 1885 ที่ถนน Via Nirone เมืองมิลาน ในประเทศอิตาลี จวบมาจนถึงปัจจุบัน ประสบการณ์และความต่อเนื่องของพัฒนาเทคโนโลยี่ของจักรยาน Bianchi ทำให้ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยี่จักรยานของโลกในยุคนี้ Bianchi นับเป็นรถแข่งเสือหมอบสายพันธ์แท้ที่ผลิตในอิตาลีภายใต้รหัส CORSA PLATFORM ด้วยสุดยอดเทคโนโลยี่การทำเฟรมอลูมิเนียมที่เรียกว่า Mega Pro Evolution Section ที่ให้คุณลักษณะโดดเด่นของรถแข่งพันธุ์แท้สไตล์อิตาลี สำหรับในรุ่น Full carbon ใช้เทคโนโลยี่การทำเฟรมคาร์บอนที่ได้ปรับปรุงและพัฒนาขึ้นในยุโรปเรียกว่า UHM/M high - modulas carbon fiber ทำให้เฟรมคาร์บอนของ Bianchi มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

Bianchi ผลิตรถจักรยานออกมาหลากหลายแบบเพื่อให้ครอบคลุมและสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยความหลากหลายนี้นับเป็นเสน่ห์ของ Bianchi ที่นักปั่นเสือหมอบทั้งหลายใฝ่ฝันหามาครอบครอง ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดของทีมวิจัยและพัฒนาของ Bianchi ที่ร่วมกับทีมงานของ Renault แห่งประเทศฝรั่งเศส ได้เอาเทคโนโลยี่ล่าสุดของ Carbon Fiber Composit Material จากการผลิตปีกเครื่องบิน Airbus นำมาพัฒนาเฟรมใหม่ล่าสุดของ Bianchi เพื่อเตรียมมาใช้กับทีมแข่งขันของ Bianchi ในปี 2008 นี้

Bianchi คือหนึ่งในสามสัญลักษณ์แห่งสุอยอดของนวัตกรรมยานพาหะนะที่ชาวอิตาลีภาคภูมิใจ นอกเหนือจากรถยนต์ Ferrari และจักรยานยนต์ DUCATI





Bianchi Hall of Fame
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 120 ปี Bianchi จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นบริษัทจักรยานที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังมีการผลิตจักรยานออกสู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง......มีแชมเปี้ยนจักรยานในระดับโลกมากที่สุดอาทิเช่น Copie, Gilmondi, Patani, Urisch, De Luca ฯลฯ รวมไปถึง แชมป์โลก 3 สมัยและแชมป์โอลิมปิกของ Mountain Bike อย่าง Julian Absalon อีกด้วย

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

ชมโรงงาน Bianchi ดูสายการผลิตรถรุ่นปี 2009
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
เริ่มที่ห้องโถงก่อนเข้าสู่โรงงาน โดยผู้จัดการฝ่ายผลิตกล่าวต้อนรับและอธิบายส่วนต่างๆของโรงงานในฟังก่อนเข้าชม

คลิ๊กที่นี่มีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

วัตถุดิบที่จะนำมาทำเป็นเฟรม
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
ท่อโลหะชนิดต่างและชิ้นส่วนที่จะนำมาประกอบเป็นเฟรมจักรยาน Bianchi

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

ขั้นตอนที่ประกอบเฟรมบน Jig ให้ได้สัดส่วนตามต้องการ
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
ประกอบท่อลงบน Jig ตามสัดส่วนและ Geometry ที่กำหนดไว้ของแต่ละรุ่น รวมถึงเฟรมคาร์บอนรุ่น T-Cube ด้วย ตรวจสอบ Geometry ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แล้วเชื่อมโครงท่อให้ติดกันชั่วคราวก่อนนำไปเชื่อมจริง

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม


ขั้นตอนสำคัญ การเชื่อมท่อเฟรมเข้าด้วยกัน
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเชื่อมท่อเฟรมเข้าด้วยกัน เฟรมต่อเฟรม ที่ต้องใช้ทั้งฝีมือและประสบการณ์ของช่างเชื่อม ดูรอยเชื่อมที่งดงามและแข็งแรง แล้วนำไปอบความร้อนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้แนวเชื่อมอีกครั้ง

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

การทำเฟรมคาร์บอน
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
เฟรมคาร์บอนของ Bianchi แยกสายการผลิตจากเฟรมอลูมิเนียม โดยทำทำในห้องปรับอุณหภูมิที่คงที่เพื่อป้องกันการแข็งตัวของเรซิ่น และต้องทำด้วยมือเฟรมต่อเฟรม

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

ขั้นตอนการทำสีของเฟรมอลูมิเนียม
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
การทำสีเฟรมอลูมิเนียม และการทำสีของเฟรมคาร์บอนจะแยกกันคนละสายการผลิต การทำสีเฟรมอลูมิเนียมใช้การพ่นด้วยมือ อบให้แห้งด้วยความร้อนแล้วนำมาติดสติ๊กเกอร์แล้วนำไปอบอีกครั้ง

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

ขั้นตอนการทำสีของเฟรมคาร์บอน
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
เฟรมคาร์บอนแยกสายการผลิตออกมาเพื่อการทำสีโดยเฉพาะ ทำเสร็จแล้วนำเข้าตู้อบความร้อนอีกครั้ง

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

ตรวจสอบเฟรมก่อนนำเข้าสู่สายการประกอบรถจักรยาน
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
เฟรมทุกเฟรมต้องได้รับการตรวจสอบและกำหนดเลขประจำเฟรมก่อนนำไปเข้าสายการประกอบเป็นรถทั้งคัน

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

สายการประกอบรถ Bianchi
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆมาแล้ว ก็มาถึงสายการประกอบรถโดยช่างประกอบรถที่อยู่กับ Bianchi มาหลายสิบปี

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

ขั้นตอนการบรรจุลงกล่องก่อนส่งให้กับลูกค้า
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
การบรรจุลงกล่องก่อนนำส่งให้กับลูกค้าทั่วโลก

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม

ห้องแลปของ Bianchi การค้นคว้าวิจัยกับการทดสอบรถในสายการผลิต
เยี่ยมชมโรงงาน Bianchi
ห้องทดลองของ Bianchi เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา ค้นคว้าวิจัย เทคโนโลยี่ใหม่ๆของจักรยานและเป็นที่ทดสอบคุณภาพของสินค้าตลอดจนชิ้นส่วนต่างๆเพื่อให้ความมั่นใจกับลูกค้าในเรื่องคุณภาพของวัสดุและส่วนประกอบต่างของรถ Bianchi ทุกรุ่น

คลิ๊กที่นี่ยังมีอีกหลายภาพให้ดูเพิ่มเติม



http://www.thairb.com

การผลิตโทรศัพท์

โทรศัพท์มือถือจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
สำหรับความหมายอื่น ดูที่ โทรศัพท์มือถือในประเทศไทย

ตัวอย่างของโทรศัพท์มือถือโทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ (และมีการเรียก วิทยุโทรศัพท์) คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการสื่อสารสองทางผ่าน โทรศัพท์มือถือใช้คลื่นวิทยุในการติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยผ่านสถานีฐาน โดยเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือแต่ละผู้ให้บริการจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายของโทรศัพท์บ้านและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการอื่น โทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นในลักษณะคอมพิวเตอร์พกพาจะถูกกล่าวถึงในชื่อสมาร์ตโฟน

โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนอกจากจากความสามารถพื้นฐานของโทรศัพท์แล้ว ยังมีคุณสมบัติพื้นฐานของโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นมา เช่น การส่งข้อความสั้นเอสเอ็มเอส ปฏิทิน นาฬิกาปลุก ตารางนัดหมาย เกม การใช้งานอินเทอร์เน็ต บลูทูธ อินฟราเรด กล้องถ่ายภาพ เอ็มเอ็มเอส วิทยุ เครื่องเล่นเพลง และ จีพีเอส

โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรกถูกผลิตและออกแสดงในปี พ.ศ. 2516 โดย มาร์ติน คูเปอร์ (Martin Cooper) นักประดิษฐ์จากบริษัทโมโตโรลา เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 1.1 กิโลกรัม[1] ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2543 ที่มีจำนวน 12.4 ล้านคน[2] มาเป็น 4,600 ล้านคน[3]

เนื้อหา [ซ่อน]
1 วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ
2 ระบบปฏิบัติการมือถือ
3 สถิติ
3.1 ผู้ผลิตมือถือ
3.2 ระบบปฏิบัติการมือถือ
4 ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ
5 ดูเพิ่ม
6 อ้างอิง

[แก้] วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ1G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ analog ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น NMT, AMPS, DataTac
2G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น GSM, cdmaOne, PDC
2.5G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ที่เริ่มนำระบบ packet switching มาใช้ ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น GPRS
2.75G ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น CDMA2000 1xRTT, EDGE
3G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ที่มีความสามารถครบทั้งการสื่อสารด้วยเสียงและข้อมูลรวมถึงวีดิโอ ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น W-CDMA, TD-SCDMA, CDMA2000 1x-EVDO
3.5G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงขึ้นกว่า 3G เช่น HSDPA ใน W-CDMA
4G ระบบโทรศัพท์มือถือที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบ เชื่อกันว่าโทรศัพท์มือถือในยุคนี้จะสามารถสนับสนุน แอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิธสูงเช่น ความจริงเสมือน 3 มิติ (3D virtual reality) หรือ ระบบวิดีโอที่โต้ตอบได้ (interactive video) เป็นต้น[4]
[แก้] ระบบปฏิบัติการมือถือซิมเบียน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในค่ายโนเกีย
วินโดวส์โมบาย จะใช้กับโทรศัพท์มือถือที่เป็น PDA (Personal digital assistants)
ไอโฟน โอเอส ใช้เฉพาะใน ไอโฟน และ ไอพอดทัช
BlackBerry OS
แอนดรอยด์
[แก้] สถิติ[แก้] ผู้ผลิตมือถือที่มา สถิติเมื่อ โนเกีย ซัมซุง แอลจี RIM โซนี่ อิริคสัน อื่นๆ อ้างอิง
IDC ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 36.6% 21.8% 9.2% 3.6% 3.6% 25.3% [5]
Gartner ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 35.0% 20.6% 8.6% 3.4% 3.1% 29.3% [6]
[แก้] ระบบปฏิบัติการมือถือที่มา สถิติเมื่อ ซิมเบียน BlackBerry OS แอนดรอยด์ iOS วินโดวส์ โมบาย อื่นๆ รวม อ้างอิง
IDC ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 40.1% 17.9% 16.3% 14.7% 6.8% 4.2% 100% [7]
IDC คาดคะเนปี 2557 32.9% 17.3% 24.6% 10.9% 9.8% 4.5% 100% [8]




[แก้] ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือแคนาดา
Research In Motion (ผู้ผลิต แบล็กเบอร์รี)
Sierra Wireless
mobiado
จีน
อัลคาเทล (Alcatel)
Amoi Mobile Phones
Amoisonic
BBK
Capitel
Cect
Cosun
Club
Eastcom
Haier
Huawei
Kejian
Konka
Legend mobile phones
Lenovo
Meizu
Ningbo Bird
ZTE
ฟินแลนด์
โนเกีย (Nokia)
ฝรั่งเศส
ซาเจม (SAGEM)
อินเดีย
Micromax
Spice
Videocon
Onida
!Next
Intex
C-Tel
Sigmatel
Usha Lexus
Lemon mobile
zen mobile
Maxx mobile
Karbonn mobile
LAVA mobile
อิสราเอล
Modu
Emblaze
IXI Mobile
อิตาลี
Brionvega
Onda
Telit
ญี่ปุ่น
Fujitsu / Toshiba
Kyocera Wireless
Mitsubishi Electric
NEC / Casio / Hitachi
พานาโซนิค (Panasonic)
ซันโย (Sanyo)
ชาร์ป (Sharp)
มาเลเซีย
M.Mobile
dallab
เนเธอร์แลนด์
ฟิลิปส์ (Philips)
รัสเซีย
sitronics
Voxtel
เกาหลีใต้
Bellwave
Innostream
แอลจี (LG)
Pantech Curitel
ซัมซุง (Samsung)
KTF Ever
สวีเดน
โซนี่ อิริคสัน (Sony Ericsson)
สวิสเซอร์แลนด์
Goldvish
Gresso
TAG Heuer
ไต้หวัน
เอเซอร์ (Acer)
Asus
เบนคิว (BenQ)
DBTel
E-TEN
เอชทีซี (HTC)
OKWAP
เยอรมนี
ซีเมนส์ (Siemens)
ไทย
GNET
ไอโมบาย (i-mobile)
jfone
Wellcom
โฟนวัน
ทีดับบลิวแซด
แฟมิลี่
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
i-mate
Thuraya
สหราชอาณาจักร
เซนโด (Sendo)
Vertu
สหรัฐอเมริกา
แอปเปิล (Apple)
เดลล์ (Dell)
Garmin
Google
Hewlett-Packard
โมโตโรลา (Motorola)

Palm http://www.google.co.th/
Sonim
เวเนซูเอลา
Vetelca

การสร้างตึก

มหานคร คือ โครงการแบบ mixed-use ที่จะเป็นดั่งโอเอซิสใจกลางกรุงเทพฯ ประกอบไปด้วย เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก, พื้นที่สาธารณะแห่งใหม่, ไลฟสไตล์พลาซ่าระดับ ไฮเอนด์ และบางกอกเอดิชั่น โรงแรมหรูระดับห้าดาว พร้อมเสร็จสมบูรณ์ในปี 2555


กรุงเทพฯ ประเทศไทย 23 กรกฎาคม 2552 – เพซ ดีเวลลอปเมนท์ ร่วมกับ ไอบีซี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของฟิชแมน กรุ๊ป เปิดตัวดีไซน์ “มหานคร” เป็นครั้งแรก โดย “มหานคร” คือโครงการแบบ mixed-use ที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมและจะเป็นตึกที่สูงที่สุดของกรุงเทพฯเมื่อเสร็จสมบูรณ์

“มหานคร” ซึ่งเป็นอาคารสูง 77 ชั้นนี้ ได้รับการสร้างสรรค์โดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก นายโอเล เชียเรน พาร์เนอร์ของ Office for Metropolitan Architecture หรือ โอเอ็มเอ และเป็นสถาปนิกโครงการซีซีทีวีของกรุงปักกิ่ง

“มหานคร” เป็นโครงการที่โดดเด่นทันสมัย ภายใต้แนวคิดการออกแบบให้ตัวอาคารเสมือนถูกโอบล้อมด้วยริบบิ้นสามมิติหรือ ‘พิกเซล’ ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งล้อมไปด้วยกระจกราวกับลอยอยู่บนฟ้า เพื่อมอบทิวทัศน์แบบพาโนรามาแก่ผู้พักอาศัย เผยความงามและความมีชีวิตชีวาที่มีอยู่ภายใน โดยส่วนของ ‘พิกเซล’ นี้จะตั้งเด่นอยู่ใต้ฟ้ากรุงเทพฯ และเผยทิวทัศน์ความงดงามของเมืองให้ทุกคนได้เห็นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ส่วนของพิกเซลยังมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง และสอดคล้องกับสภาพอากาศของประเทศไทย สำหรับยูนิตที่ไม่มีพิกเซล ก็ยังสามารถสัมผัสกับความพิเศษของมหานครได้เช่นกัน ทั้งในรูปแบบยูนิตแบบชั้นเดียวและแบบดูเพล็กซ์ ผนังกระจกหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน และบานหน้าต่างที่สามารถพับเปิดโล่งได้ ซึ่งทำให้ผู้พักอาศัยสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่จากภายในสู่ภายนอกได้อย่างสะดวกสบาย เป็นการปรับเปลี่ยนบรรยากาศที่พักอาศัยได้ทั้งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์



อ่านต่อ : http://www.dek-d.com

ทักษะการเต้นb-boy

กระทู้: 6


Re: เอาทักษะการเต้น B-Boyมาฝากพี่ๆน้องๆ
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2007, 11:42:24 »

--------------------------------------------------------------------------------
ท่าที่ใช้ความแข็งแรงของแขน
-Handstand เรียกอีกอย่างคือหกสูง ในตอนแรกๆคุณควรฝึกกับกำแพงก่อน และเมื่อคุณทำได้แล้ว คุณค่อยมาทำโดยไม่พิงกำแพงให้ชิน ตอนหกสูงคุณควรเกร็งแขนให้มาก และหน้ามองพื้นไว้

- L-kick เป็นท่าที่คล้ายๆล้อเกวียน คือคุณทำท่าเหมือนคุณจะทำล้อเกวียน วางมือขวาลงด้านข้างของลำตัว (แล้วแต่ถนัดซ้าย-ขวา) แล้วเตะขาซ้ายเข้าหาลำตัวดีดขาขวาขึ้นตามไปค้างบนอากาศ มือซ้ายจะไม่วางหมุนไปเป็นล้อเกวียน ในขณะเดียวกันเราจะเอามือซ้ายมาจับปลายเท้าซ้ายก็ได้ เพื่อความสวยงามและค้างมากยิ่งขึ้น

-Hollow Back เป็นท่าที่เหมาะมากสำหรับพวกที่อยากจะฝึกพวกฝืนบน ขั้นแรกคุณควรทำหกสูงสลับขาให้ค้างก่อน ต่อมาเมื่อคุณทำจนชินแล้วคุณค่อยเพิ่มท่าเข้าไปคือเก็บคอพยายามเอาคางชิดอกไว้ คุณจะรู้สึกว่าตัวคุณเริ่มหงายไปด้านหลัง ต่อมาคือการวางมือเราจะวางมือกว้างกว่าปกติเท่าตัว และบิดข้อมือเข้าหากัน (จะมากหรือน้อยแล้วแต่คนถนัด) คราวนี้เราลองมาทำทุกอย่างพร้อมกันดู ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเมื่อขึ้นไปขอให้เก็บคอเป็นอย่างแรก

-V-sick เป็นท่าfreezที่นิยมในหมู่bgirlอย่างมาก ท่านี้คุณต้องเกร็งแขนและพับขาเข้าหาลำตัว ให้มากที่สุด การวางมือเหมือนHollow (อันที่จริงฝืนก็วางมือแบบเดียวกันหมด) เมื่อคุณดีดตัวขึ้นไปขอให้คุณเก็บคอพร้อมกับพับขาเข้าหาลำตัว และทิ้งก้นไปด้านหลัง อาจจะน่าหวาดเสียวหน่อยในตอนแรกๆ แต่ถ้าคุณกล้าทิ้งก้นแล้วทุกอย่างก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สุดท้ายก็อยู่ที่คุณจะทำให้มันค้าง คุณต้องเกร็งไหล่เยอะๆ แต่เมื่อคุณชำนาญแล้วคุณก็สามารถปรับเปลี่ยนขาไปเป็นรูปแบบอื่นได้เช่นขาคู่,ขัดสมารถ,ขากางและอื่นๆ

-Side of V-sick เรียกอีกอย่างว่า ฝืนข้าง ท่านี้ต้องอาศัยเหลี่ยมความถนัดของแต่ละบุคคลแต่ที่แบบมาคือเราเก็บคอแล้วต้องแหงนหน้าไปในทิศทางที่เราฝืนอีกการวางมือเช่นเดียวกับ v-sick พยายามวางในระยะที่ไหล่เปิดมากที่สุดส่วนข้างในไปด้านซ้ายหรือขวาก้อได้

ท่าที่ใข้ส่วนของไหล่และศอก แนบกับพื้น
- Elbow freez คือท่าโพสศอก เราวางศอกข้างที่ถนัดข้างใดข้างหนึ่งกับพื้น และวางมืออีกข้างไว้ข้างๆ ทำเป็นมุมสามเหลี่ยม และวาดขาที่ถนัดขึ้นไปแรงๆแล้วขาอีกข้างจะตามขึ้นไปเอง จากนั้นให้เกร็งท่อนแขนช่วงไหล่ที่วางศอกไว้ให้มากที่สุด ใช้มืออีกข้างเป็นตัวพยุง ขาที่วาดขึ้นไปให้กางตึงไว้ ส่วนขาอีกข้างให้งอไปด้านหลังให้มากที่สุด มันจะเป็นการรักษาสมดุล

-Side freez คือท่าโพสไหล่ เราวางแขนทั้งแขนแนบไว้กับพื้น แขนอีกข้างหนึ่งวางไว้ทำมุม ฉาก งอขาข้างหนึ่งขึ้นเพื่อที่จะดีดขึ้นไป การขึ้นเหมือนกับท่าElbow ท่านี้คุณควรเกร็งลำตัวให้มากที่สุด ให้ลำตัวตั้งตรงให้ได้ ไม่ให้โน้มไปด้านหน้า หรือกลิ้งไปด้านหลัง

ท่าที่ใช้ศอกตั้งเป็นฐาน
- Air Baby ท่านี้เราเอาศอกเป็นฐานแล้วใช้เข่าวาง อยู่บนศอกข้างเดียว มีทั้งOne handและ Two hand จะเจ็บศอกมากช่วงแรกๆ พยายามหาจุดให้เจอและเกร็งลำตัว พร้อม กับ หา balance ในร่างกาย

-Double Leg on Elbow เริ่มจากวางมือทั้งสองข้างลงบนพื้นแล้วก้มตัวลงมาเล็กน้อยเพื่อที่ให้ศอกงอและให้บริเวณแถวขาหนีบหรือเหนือกว่านั้นวางบนศอกได้เมื่อขึ้นมาได้แล้วให้ขาทั้ง 2 นั้นยืดออกเพื่อให้ควบคุมได้ง่ายและสวยงามขึ้น ทั้งนี้เราต้องตัวและขาวางอยู่บนศอก น้ำหนักทั้งหมดจะอยู่ที่มือทั้งสองข้าง

-Double Leg Keep ท่านี้เป็นท่าฝึกในยิมนาสติก โดยนั่งและวางมือทั้ง 2 ให้อยู่ข้างๆให้ห่างจากตัวเล็กน้อยพร้อมกับเกร็งตัวและสะโพกให้ลอยจากพื้นพร้อมกับยกขาทั้งสองข้างขึ้น ซึ่งเราสามารถกางขา ขาชิดกันหรือขาไขว้ก้อได้

ท่าที่ใช้หัวเป็นฐาน
-Head force ท่านี้ต้องมีพื้นฐานในการตั้งหัวให้ balance จะเริ่มอธิบายตั้งแต่การตั้งหัวก่อนโดยวางมือในระดับพอดีและก้มหัวลงโดยให้ฐานอยู่ที่กลางหัวแล้วก้าวเท้าเกร็งแขนและคอพื้นให้ตัวตั้งขึ้นมาทั้งตัว เมื่อพอตั้งได้แล้วให้กางขา ย่อขา หุบขา จนชิน และมาฝึกท่านี้กัน head force ท่านี้ที่เรามักเรียกว่าฝืนล่าง เป็นท่าที่สวยงามและต้องใช้แรงเกร็งกล้ามเนื้อท้องและเอวเป็นอย่างมากต้องอาศัยจังหวะของการ balance ตัวเองอย่างมาก โดยฝึกจากวางมือไปด้านหน้าแล้วตั้งหัวและย่อนเอวและลำตัวลงมาให้มากที่สุดและพยายามฝืน+เกร็งให้ได้ โดยเราวางขาโดยการงอเข่าจะอยู่ในท่าที่สวยงาม เมื่อฝึกจนคล่องแล้วให้ตั้งหัวแบบธรรมดาแล้วค่อยๆ
วางมือไปด้านหน้าแทน

-Head set ท่านี้ต้องมีพื้นฐานจากการตั้งหัว ค่อนข้างง่าย โดยในขณะที่เราตั้งหัวตั้งจังหวะตัวและขาให้หันไปด้านซ้ายหรืขวา ด้านใดด้านนึง โดยเราต้องหันหน้าไปด้านที่เราต้อง การ ตามถนัดพร้อมกับบิดดเอวและขาไปพร้อมกันกับหน้าส่วนมือด้านตรงข้ามที่เราหันหน้าและบิดเอวนั่งจะต้องวางศอกแนบลงกับพื้น

ท่าที่ต้องอาศัยกำลังและจังหวะ
ท่า powermove เป็นท่าที่อาศัยความยากมากขึ้นอีกระดับนึงเพราะเนื่องด้วยความจำกัดของกำลังผู้ญซึ่งทำให้ต้องอาศัยการฝึกมากกว่าปกติ ท่าที่มีอยู่นี้จึงมีน้อยซึ่งส่วนใหญ่เป็นท่าที่เราร่อนระนาบไปกับพื้น (glide)

Headspin - เริ่มจากตั้งหัวแล้วกางขาพอประมาณพร้อมกับบิดเอวและลำตัวเล็กน้อย ให้ พอมี แรงเวียง จังหวะเดียวกันก็ปัดมือไปด้านที่ถนัด

Headglide - เริ่มจากตั้งหัวให้มั่นคงรักษาbalance ให้ได้มากที่สุด กางขาให้ตึงและกว้าง และปัดมือพร้อมกับหัวไปในด้านที่ถนัด ขณะเดียวกันพยายามเลี้ยงหัวไม่ให้ล้มไปเรื่อยๆ เมื่อ momentum ได้ที่ แล้วก้อจาก เริ่มการ glide คือการร่อนของแรงเหวี่ยงที่เกิดจากการปัดมือด้วยความเร็วชั่วขณะเมื่อ balance คงที่ จนกว่าจะหมดแรงเหวี่ยง ซึ่งสามารถเพิ่มรอบหมุนโดยการปัดมือไปด้วยในขณะเดียวกัน

: Air Move

-1990's ท่านี้คุณควรฝึกหกสูงให้ชำนาญเสียก่อน เริ่มแรกยืนกางขาออกพอประมาณ มือขวาเหวี่ยงไปด้านขาซ้าย และเตะขาซ้ายขึ้น และเตะขาขวาลอยตาม วางมือซ้ายไว้ใกล้ๆมือขวา และยกมือขวาขึ้น เกร็งแขนให้ชิดข้างหูไว้ และอย่างอแขน (นี่คือวิธีการขึ้นของการหมุนมือซ้าย ถ้าใครถนัดขวาก็สลับกัน)
-2000's ท่านี้เหมือนท่า1990' เพียงแต่ท่านี้จะวางมือทับกันเท่านั้น การขึ้นเหมือนกันหมดทุกอย่าง

http://www.bcc138.com

ทักษะการเล่นฟุตบอล

แนวคิด




การเล่นกีฬาฟุตบอลให้เกิดประสิทธิภาพ ผู้เล่นต้องเรียนรู้จนเกิดทักษะพื้นฐานหลายด้าน
อาทิ การเคลื่อนไหวเบื้องต้น การทำความคุ้นเคยกับลูกฟุตบอล การหยุดหรือบังคับลูก ทักษะเหล่านี้มี
ความละเอียดอ่อน และเป็นพื้นฐานสำหรับเทคนิคการเล่นอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝนจน
ชำนาญ และเป็นทักษะที่ต้องการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง


สาระการเรียนรู้



1. การทรงตัว
2. การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ถอยหลัง ไปทางซ้าย ไปทางขวา
3. การสร้างความคุ้นเคยกับลูกฟุตบอล
4. การหยุดหรือบังคับลูกฟุตบอล


ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง



1. เพื่อให้ผู้เรียนและปฏิบัติการเคลื่อนไหวในการเล่นฟุตบอลได้อย่างถูกต้อง
2. เพื่อให้ผู้เรียนรู้และปฏิบัติการทำความคุ้นเคยกับลูกฟุตบอลได้อย่างถูกต้อง
3. เพื่อให้ผู้เรียนรู้และปฏิบัติการหยุดหรือบังคับลูกฟุตบอลได้อย่างถูกต้อง



3.1 การทรงตัว



การทรงตัวเป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่มีความสำคัญในการฝึกกีฬาทุกชนิด เพื่อการเคลื่อนไหวได้อย่าง
คล่องแคล่วว่องไว สามารถทำให้การเล่นกีฬาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สนุกสนานเร้าใจท่าทางการทรงตัว
ที่ผู้เล่นฟุตบอลควรฝึกหัดมีดังนี้
1. ทำการทรงตัวและจังหวะการใช้เท้าทั้งบนพื้นดินและในอากาศ
2. การถ่ายน้ำหนักตัวไปสู่เท้าหลัก เมื่อมีการครอบครองลูก เตะลูกหรือเลี้ยงลูกฟุตบอล
3. การวิ่งตามแบบของฟุตบอล เช่น วิ่งไปที่มุมสนาม วิ่งหาช่องว่าง วิ่งตัดกันเพื่อหลอกคู่ต่อสู้
4. การวิ่งซิกแซ็ก เพื่อการหลบหลีกเมื่อเลี้ยงหรือครอบครองลูก



• ภาพที่ 3.1 การฝึกการทรงตัวในการเล่นฟุตบอล



3.2 การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ถอยหลัง ไปทางซ้าย ไปทางขวา



มีวิธีการฝึกดังนี้
1. ทิ้งน้ำหนักตัวไปสู่ทิศทางที่จะเคลื่อนที่ไป ตาจับอยู่ที่ลูกบอล
2. เคลื่อนเท้าที่อยู่ในทิศทางที่จะเคลื่อนไป นำไปก่อน แล้วจึงเคลื่อนเท้าอีกข้างหนึ่งตามไปโดยเร็ว
เช่น ไปทางซ้ายให้ก้าวเท้าซ้ายนำไปก่อน แล้วก้าวเท้าขวาตามไป
3. การใช้ปลายเท้าสัมผัสพื้น ช่วยให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วขึ้น




3.3 การสร้างความคุ้นเคยกับลูกฟุตบอล



พื้นฐานของการเล่นฟุตบอลที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การสร้างความสัมพันธ์หรือความคุ้นเคยกับลูก
ฟุตบอลเป็นอย่างดี กล่าวคือ การเล่นลูกฟุตบอลต้องสามารถทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้ทุกประการ ไม่ว่าจะ
เป็นการเล่นลูกแบบใดก็ตาม
การที่ผู้เล่นคุ้นเคยกับลูกฟุตบอลจะส่งผลให้การครอบครองบอล การเคลื่อนที่ในลักษณะต่างๆ การควบคุมบังคับทิศทางของลูกฟุตบอลเป็นไปด้วยความแม่นยำ ดังนั้น จึงควรให้ผู้เล่นฝึกความคุ้น
เคยให้ชินกับลูกฟุตบอลมากที่สุด



http://www.dongjen.ac.th

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

การใช้โปรเเกรม Microsoft Excel

โปรแกรมสำเร็จรูป Microsoft Excel

โปรแกรม Microsoft Excel เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับงานทางด้าน การคำนวณ การตีตาราง การหาค่าสูตรต่าง ๆ ตลอดจนสามารถนำข้อมูล ไปสร้างเป็นกราฟ เพื่อแสดงแผนภูมิต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งถ้าเรามีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขใด ๆ โปรแกรมก็จะทำการคำนวณ สูตรที่เชื่อมโยงกับตัวเลขนั้น ๆ ให้โดยอัตโนมัติ


การเข้าสู่โปรแกรม Microsoft Excel

1. คลิ๊กที่ปุ่ม Start

2. เลื่อนขึ้นไปที่หัวข้อ Program

3. เลื่อนมาด้านขวา คลิ๊กที่โปรแกรม Microsoft Excel


ส่วนประกอบต่าง ๆ ของหน้าจอโปรแกรม Microsoft Excel

1. เมื่อเปิดโปรแกรมมาแล้ว จะเห็นว่าหน้าจอจะตีตารางเป็นช่อง ๆ เราเรียกว่า กระดาษทำการ Work Sheet

2. ด้านบนที่เห็นเป็นตัวอักษร A , B , C , D , E , …….. เป็นการแบ่งแนวตั้งเราเรียกว่า คอลัมน์ Column

3. ด้านซ้ายที่เห็นเป็นตัวเลข 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , ………… เป็นการแบ่งแนวนอนเราเรียกว่า แถว Row

4. จุดตัดระหว่าง คอลัมน์ กับ แถว เราเรียกว่า เซลล์ Cell

5. ที่ Cell A1 จะมีกรอบสีดำเข้ม สามารถเลื่อนไปยัง Cell ต่าง ๆ ได้ เราเรียกว่า ตัวชี้ตำแหน่งเซลล์ ปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ Cell Pointer

การเลื่อน Cell Pointer

1. ใช้เม้าส์คลิ๊กที่ เซลล์ ที่เราต้องการเลื่อน

2. ใช้ลูกศร สี่ทิศ ที่แป้นพิมพ์ในการเลื่อน

3. ใช้ปุ่ม Ctrl + Home เพื่อเลื่อนกลับมาที่ เซลล์ A1

4. ใช้ปุ่ม Ctrl + ลูกศร ขวา เพื่อเลื่อนมา คอลัมน์ ขวาสุด

5. ใช้ปุ่ม Ctrl + ลูกศร ลง เพื่อเลื่อนลงมาบรรทัดสุดท้าย

6. ใช้ปุ่ม Page Up หรือ Page Down เพื่อ เลื่อน ขึ้น หรือ ลง ทีละ 1 หน้าจอภาพ


การพิมพ์ข้อมูลลงใน Cell

1. เลื่อนเซลล์ ไปยังเซลล์ ที่ต้องการจะป้อนข้อมูล

2. พิมพ์ข้อมูลที่ต้องการ

3. กดปุ่ม Enter หรือ ใช้ลูกศร ที่แป้นพิมพ์เพื่อ เลื่อนไปทางขวา หรือ ขึ้น ลง ได้


การลบข้อมูลในเซลล์

1. เลื่อนเซลล์ ไปยังเซลล์ ที่ต้องการจะลบ

2. กดปุ่ม Delete ที่แป้นพิมพ์


การแก้ไขข้อมูล

1. เลื่อนเซลล์ ไปยังเซลล์ ที่ต้องการจะแก้ไขข้อมูล

2. กดปุ่ม F2 ที่แป้นพิมพ์

3. ทำการแก้ไขข้อมูล (สามารถใช้ลูกศร ซ้าย – ขวา ที่แป้นพิมพ์ในการเลื่อนเคอร์เซอร์ได้)

4. เสร็จการแก้ไขข้อมูล โดยการกดปุ่ม Enter


การย้ายข้อมูล (Move)

1. เลื่อนเซลล์ไปยังเซลล์ที่จะย้ายข้อมูล

2. นำเม้าส์มาแตะที่ขอบของ Cell Pointer เม้าส์จะเปลี่ยนจากรูป บวก ที่เป็นกาชาด มาเป็นลูกศร

3. กดปุ่มซ้ายของเม้าส์ ค้างไว้ เลื่อน เซลล์ได้เลย


การคัดลอกข้อมูล (Copy)

1. เลื่อนเซลล์ไปยังเซลล์ที่จะคัดลอกข้อมูล

2. นำเม้าส์มาแตะที่จุดสี่เหลี่ยมสีดำตรงมุมขวาล่างของ Cell Pointer เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นเครื่องหมายบวก

สีดำ

3. กดปุ่มซ้ายของเม้าส์ค้างไว้ แล้วเลื่อนไปยังเซลล์ที่จะคัดลอกไปได้เลย

การปรับความกว้างของคอลัมน์

1. เลื่อนเม้าส์ไปชี้ที่เส้นแบ่งระหว่างคอลัมน์ (เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นรูปลูกศรสีดำ ซ้าย – ขวา)

2. กดเม้าส์ค้างไว้ แล้วลากเม้าส์เพื่อปรับความกว้าง หรือจะดับเบิ้ลคลิ๊ก เพื่อให้เครื่อง

ปรับความกว้างอัตโนมัติ


การเขียนสูตรเพื่อทำการคำนวณในเอ็กเซล

1. คลิ๊กที่เซลล์ที่ต้องการจะคำนวณ

2. กดเครื่องหมาย เท่ากับ = เพื่อให้เอ็กเซลทราบว่า ช่องนี้ต้องการทำการคำนวณ

3. พิมพ์สูตรที่ต้องการคำนวณลงไป เช่น พิมพ์ว่า =D3*3% (D3 คือ เซลล์ที่เก็บตัวเลขที่เราจะดึงมาทำการคำนวณ)

4. เมื่อพิมพ์สูตรเสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม Enter เครื่องจะทำการคำนวณคำตอบให้


การคัดลอกสูตร (Copy สูตร)

1. เลื่อนเซลล์ ไปยังเซลล์ที่จะคัดลอกสูตร

2. เลื่อนเม้าส์มาชี้ที่จุดสี่เหลี่ยมสีดำ ด้านล่างขวาของกรอบสีดำ เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นเครื่องหมาย บวก สีดำ

3. กดปุ่ม ซ้าย ของเม้าส์ ค้างไว้ แล้วเลื่อนเม้าส์ลงมาเรื่อยจนครบทุกช่องที่จะก๊อปปี้


4. เมื่อปล่อยเม้าส์ เครื่องก็จะทำการคำนวณทุกช่องให้เอง


ถ้าทำการก๊อปปี้แล้วตัวเลขเกิดรางรถไฟขึ้นมา ############## ความหมายคือความกว้างไม่พอ

1. เลื่อนเม้าส์ไปที่เส้นแบ่งระหว่างคอลัมน์ ที่เราจะปรับด้านบน (เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นรูป ลูกศรสีดำ

ซ้าย – ขวา)

2. ดับเบิ้ลคลิ๊ก เพื่อปรับความกว้างอัตโนมัติ


การคำนวณหายอดรวม

1. เลื่อนเซลล์ ไปยังเซลล์ที่ต้องการจะหายอดรวม

2. ด้านบน คลิ๊กที่ปุ่ม ซิกม่า (เป็นรูปตัว S )

3. จากนั้นที่เซลล์ จะมีคำสั่งให้ว่า =SUM(ตามด้วยกลุ่มเซลล์)

4. กดปุ่ม Enter เครื่องจะคำนวณหาคำตอบให้


การผสานเซลล์ให้เป็นช่องเดียวกัน จะใช้ในกรณีที่ต้องการให้ข้อความจัดกลางระหว่างคอลัมน์ หลาย ๆ คอลัมน์ เช่น ต้องการให้ชื่อบริษัท ในบรรทัดแรกอยู่ตรงกลางระหว่าง คอลัมน์ A ถึงคอลัมน์ F

วิธีการคือ

1. นำเม้าส์ไปวางที่เซลล์ A1 จากนั้นกดเม้าส์ค้างไว้ ลากมาทางขวาจนถึงคอลัมน์ F1

2. ด้านบน คลิ๊กที่ปุ่ม a เล็ก (ถ้าเลื่อนเม้าส์ไปวางไว้ จะมีคำว่า ผสานและจัดกึ่งกลาง)

3. เครื่องจะทำการผสานเซลล์ แล้วนำข้อความมาจัดกลางให้


การให้เครื่องใส่หมายเลขลำดับที่ต่อเนื่องกันไป เช่น ต้องการให้ลำดับที่เป็น 1 , 2 , 3 , 4 , ไปเรื่อย ๆ


1. คลิ๊กที่เซลล์ที่ต้องการจะเริ่มเลข 1

2. ใส่เครื่องหมายฟันเดียว ‘ ตรงแป้นพิมพ์อักษร ง ไม่ต้องยกแคร่ พิมพ์เลข 1 แล้วกด Enter

3. เลข 1 จะชิดด้านซ้าย เลื่อนเซลล์กลับมาที่เลข 1 ทำการก๊อปปี้ (เลื่อนเม้าส์ ชี้ ตรงจุดสี่เหลี่ยมสีดำตรงมุมล่างขวา เม้าส์จะเปลี่ยนรูปเป็นเครื่องหมาย บวก สีดำ กดเม้าส์ค้างไว้ แล้วลากเม้าส์ลงมาตามต้องการ พอปล่อยเม้าส์ เครื่องจะใส่ตัวเลขเรียงลำดับให้เอง)


การตีตาราง

1. ลากเม้าส์คลุมเซลล์ที่เราต้องการจะตีตาราง

2. ด้านบนที่แถบเครื่องมือบรรทัดที่สอง (แถบจัดรูปแบบ) นับจากด้านหลังปุ่มที่ 3 จะเป็นปุ่มเส้นขอบ ให้คลิ๊กที่ปุ่มสามเหลี่ยมเล็ก ๆ หลังปุ่มเส้นขอบ

3. เครื่องจะมีเส้นขอบให้เลือก ให้เลือกปุ่มที่อยู่ในบรรทัดที่ 3 ปุ่มที่ 2 เครื่องจะมีคำว่า เส้นขอบทั้งหมด

4. เครื่องจะตีตารางให้ คลิ๊กเม้าส์ที่เซลล์ไหนก็ได้ เพื่อยกเลิกแถบที่เราลากไว้


การ Save ข้อมูล จะแบ่งเป็น 2 กรณี


ถ้าเป็นการ Save ครั้งแรก หมายถึง เพิ่งพิมพ์งานใหม่

1. คลิ๊ก เมนู แฟ้ม

2. ลงมาคลิ๊กที่คำสั่ง บันทึกเป็น (Save As)

3. จะขึ้นหน้าต่าง Save As จากนั้นในช่องชื่อแฟ้ม เครื่องจะนำเอาบรรทัดแรกที่เราพิมพ์ มาเป็นชื่อแฟ้ม แต่ถ้าเราไม่เอาชื่อแฟ้มนั้นก็ ลบทิ้ง พิมพ์ชื่อแฟ้มที่ต้องการลงไปแล้ว คลิ๊กปุ่ม บันทึก


ถ้าเป็นการ Save งานเดิม หมายถึง เรียกขึ้นมาเพื่อแก้ไข แล้วจะ Save ที่เราแก้ไข

1. คลิ๊ก เมนู แฟ้ม

2. ลงมาคลิ๊กที่คำสั่ง บันทึก (Save)

3. ตรงนี้เครื่องจะไม่ขึ้นหน้าต่าง ใด ๆ เลย เครื่องจะทำการ Save ลงที่แฟ้มเดิมที่เราเรียกใช้อยู่ เพราะเครื่องทราบว่าจะ Save ที่แฟ้มใดอยู่แล้ว


การยกเลิกเส้นตารางบางส่วนที่เราตีไปแล้ว

1. นำเม้าส์มา ลาก ส่วนที่เราจะยกเลิกเส้นตาราง

2. นำเม้าส์มาวางอยู่ในแถบที่เราลาก

3. คลิ๊กปุ่มขวาของเม้าส์เพื่อเข้าวิธีลัด

4. เครื่องจะปรากฏคำสั่งต่าง ๆ ให้เราลงมาคลิ๊กที่คำสั่ง จัดรูปแบบเซลล์

5. เครื่องจะขึ้นหน้าต่าง จัดรูปแบบเซลล์ ด้านบน ให้คลิ๊กที่หัวข้อ เส้นขอบ

6. ในช่อง เส้น , ลักษณะ ด้านขวา ให้คลิ๊กที่คำว่า ไม่มี

7. ด้านซ้ายในช่อง เส้นขอบ ให้คลิ๊กเส้นที่เราต้องการจะเอาออก

8. ด้านล่างคลิ๊กที่ปุ่ม ตกลง


การเปลี่ยนตัวอักษร ขนาด ลักษณะตัวอักษร สี

1. นำเม้าส์มาลากยังเซลล์ที่ต้องการจะเปลี่ยน

2. ด้านบนที่แถบเครื่องมือบรรทัดที่ 2 (แถบจัดรูปแบบ)

3. ช่องที่ 1 ที่มีคำว่า Cordia New ช่องนี้คือแบบอักษร ถ้าเราจะเปลี่ยนแบบอักษร ให้คลิ๊กที่ปุ่มสามเหลี่ยมสีดำหลังคำว่า Cordia New จากนั้นเลือกตัวอักษรที่เราต้องการ โดยต้องเลือกตัวอักษรที่มีคำว่า New หรือ UPC อยู่หลังแบบอักษร เพราะแบบอักษรนี้จะใช้ได้กับภาษาไทย

4. ช่องที่ 2 ที่มีตัวเลขเป็น 14 ช่องนี้คือ ขนาดของตัวอักษร ถ้าเราจะเปลี่ยนก็ให้คลิ๊กที่ปุ่ม สามเหลี่ยมสีดำ หลังเลข 14 แล้วเลือกขนาดได้ตามใจชอบ

5. ช่องที่ 3 จะเป็นตัวอักษร B ถ้าเราคลิ๊กลงไปจะได้ตัวอักษร หนาขึ้น ถ้าไม่เอา ให้คลิ๊กซ้ำลงไป


6. ช่องที่ 4 จะเป็นตัวอักษร I จะเป็นการทำตัวเอียง

7. ช่องที่ 5 จะเป็นตัวอักษร U จะเป็นการทำตัวขีดเส้นใต้

8. ช่องสุดท้าย จะเป็นตัวอักษร A จะเป็นการเลือกสีตัวอักษร ให้คลิ๊กที่ปุ่มสามเหลี่ยมสีดำหลังตัว A จะมีสีต่าง ๆ ให้เลือก ถ้าเราไม่เอาสีนั้นแล้วให้คลิ๊กที่คำว่า อัตโนมัติ

9. ช่องที่อยู่หน้าปุ่ม A ที่เป็นรูปกระป๋องสี คือการใส่สีพื้น ให้คลิ๊กที่ปุ่มสามเหลี่ยมสีดำหลังกระป๋องสี จะมีสีพื้นต่าง ๆ ให้เลือก แต่ถ้าเราเลือกไปแล้วจะไม่เอาสีพื้น ให้คลิ๊กที่คำว่า ไม่เติม

10. เมื่อเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ให้นำเม้าส์คลิ๊กที่เซลล์ไหนก็ได้เพื่อยกเลิกแถบ


การคำนวณหาค่าต่าง ๆ

1. คลิ๊กที่เซลล์ที่เราจะเก็บคำตอบ

2. ด้านบนคลิ๊กที่ปุ่ม วางฟังก์ชั่น (อยู่ข้าง ๆ ปุ่มซิกม่าที่เป็นรูป fx)

3. เครื่องจะขึ้นหน้าต่าง วางฟังก์ชั่น

4. เลือกคำสั่งที่เราจะทำการคำนวณ

5. ด้านล่างคลิ๊กปุ่ม ตกลง

6. เครื่องจะขึ้นหน้าต่างเพื่อให้เราใส่กลุ่มเซลล์ที่เราต้องการจะทำการคำนวณ เช่น ถ้าเราต้องการหาค่าตั้งแต่ เซลล์ D3 ถึง เซลล์ D7 เราต้องพิมพ์ว่า D3:D7 ใช้เครื่องหมายคอลอนคั่น : จากนั้นด้านล่างคลิ๊กปุ่ม ตกลง เครื่องก็จะทำการคำนวณในเซลล์นั้นให้


คำสั่งที่ใช้ในการหาค่าต่าง ๆ

ต้องการหาค่าเฉลี่ย ใช้คำสั่ง AVERAGE

ต้องการหาค่าสูงสุด ใช้คำสั่ง MAX

ต้องการหาค่าต่ำสุด ใช้คำสั่ง MIN

ต้องการให้เครื่องตรวจสอบข้อมูล จริง กับ เท็จ ใช้คำสั่ง IF

ต้องการให้เครื่องเปลี่ยนเลขเป็นตัวอักษร ใช้คำสั่ง BAHTTEXT


การสร้างกราฟ (Graph) คือ การนำตัวเลข มาสร้างเป็นกราฟเพื่อสรุปเป็นแผนภูมิ

1. นำเม้าส์มาลากข้อมูลในแกน X เช่น ลากตั้งแต่เซลล์ B3 ถึง B7

2. นำเม้าส์มาลากข้อมูลในแกน Y เช่น ลากตั้งแต่เซลล์ D3 ถึง D7 ต้องกดปุ่ม Ctrl + ลากเม้าส์

3. ด้านบนที่แถบเครื่องมือที่ 1 ให้คลิ๊กปุ่ม ตัวช่วยสร้างแผนภูมิ (ที่เป็นรูปกราฟแท่ง)

4. เครื่องจะขึ้นหน้าต่าง ตัวช่วยสร้างแผนภูมิ ขั้น ที่ 1 จาก 4 – ชนิดแผนภูมิ

5. เครื่องจะถามทั้งหมด 4 ขั้นตอน ในขั้นตอนที่ 1 นี้เป็นการให้เราเลือกชนิดของกราฟที่เราต้องการสร้าง โดยด้านซ้าย คือ ชนิดของกราฟ มีทั้งกราฟ คอลัมน์ , กราฟแท่ง , กราฟเส้น , กราฟวงกลม เราก็คลิ๊ก ชนิดของกราฟที่เราต้องการลงไป ส่วนด้านขวาเป็นการเลือกแบบของกราฟ ว่าเราอยากได้กราฟแบบไหน เราก็คลิ๊กลงไป จากนั้น ด้านล่าง คลิ๊กที่ปุ่ม ถัดไป เพื่อไปสู่ขั้นตอนที่ 2

6. ในขั้นตอนที่ 2 เครื่องจะสร้างกราฟชนิดที่เราต้องการไว้ ตามที่เราลากข้อมูลแกน X และ Y ซึ่งในหน้าต่างขั้นที่ 2 นี้เราไม่ต้องทำอะไรเลย ให้ลงไปคลิ๊กที่ปุ่ม ถัดไป ด้านล่างได้เลย

7. ในหน้าต่างขั้นตอนที่ 3 นี้ จะเป็นการใส่สิ่งที่เครื่องไม่ได้ทำมาให้คือ

a. ด้านบนยังไม่มีคำอธิบายกราฟ วิธีใส่ก็คือ ด้านซ้ายให้คลิ๊กที่ช่อง ชื่อแผนภูมิ จะมีเคอร์เซอร์ เราก็พิมพ์ลงไป เช่น กราฟแสดงเงินเดือน (เมื่อพิมพ์เสร็จนั่งสักพัก เครื่องจะไปใส่ในกราฟด้านขวาให้เราเอง โดยไม่ต้องกดปุ่ม Enter)

b. ในกราฟแต่ละแท่งเครื่องยังไม่ได้บอกค่าว่าแต่ละแท่งมีค่าเท่าไหร่ วิธีการให้เครื่องแสดงค่าออกมาคือ ด้านบน ให้คลิ๊กที่หัวข้อ ป้ายชื่อข้อมูล และด้านซ้าย คลิ๊กที่ช่อง แสดงค่า


เสร็จแล้วด้านล่าง ให้คลิ๊กที่ปุ่ม ถัดไป เพื่อไปยังขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนสุดท้าย

8. ในขั้นตอนที่ 4 ให้คลิ๊กที่คำว่า เป็นแผ่นงานใหม่ แล้วคลิ๊กที่ปุ่ม เสร็จสิ้น เครื่องก็จะสร้างกราฟเสร็จเรียบร้อยตามที่เราต้องการ


การตกแต่งกราฟ

1. ถ้าต้องการเปลี่ยนสีของแท่งกราฟ


a. คลิ๊กที่แท่งแรกของกราฟ (จะขึ้นจุดสี่เหลี่ยมสีดำ แต่จะขึ้นทุกแท่ง) ให้คลิ๊กที่แท่งแรกของกราฟอีกครั้งนึง (จะขึ้นจุดสี่เหลี่ยมสีดำ ที่แท่งแรกเท่านั้น)


b. ให้นำเม้าส์วางที่แท่งแรกเหมือนเดิม แล้ว ดับเบิ้ลคลิ๊ก


c. จะขึ้นหน้าต่าง จัดรูปแบบจุดข้อมูล


d. คลิ๊กที่ช่องตารางสีที่เราต้องการจะเปลี่ยน


e. ด้านล่างคลิ๊กที่ปุ่ม ตกลง


f. จากนั้น ก็เลื่อนเม้าส์ไปวางแท่งที่ 2 แล้วดับเบิ้ลคลิ๊กได้เลย เปลี่ยนสีจนครบ


2. ถ้าต้องการเปลี่ยนสีที่ด้านหลังของแท่ง


a. เลื่อนเม้าส์ไปวางที่ด้านหลังของแท่ง (จะมีคำขึ้นมาว่า ผนัง)


b. ดับเบิ้ลคลิ๊กสองที


c. จะขึ้นหน้าต่าง จัดรูปแบบจุดข้อมูล ตรงนี้ถ้าเราอยากได้ สีผสมของเครื่องให้คลิ๊กที่ปุ่ม เติมลักษณะพิเศษ จะขึ้นหน้าต่าง การเติมลักษณะพิเศษ ขึ้นมาอีกหน้าต่าง จากนั้น ให้คลิ๊กที่คำว่า สีที่กำหนดไว้ ด้านขวาจะมีช่อง สีที่กำหนดไว้ เพิ่มขึ้นมา ในแถบจะมีคำว่า ก่อนอาทิตย์ตก แล้วด้านล่างจะมีสีตัวอย่างว่า ก่อนอาทิตย์ตก มีแบบไหนบ้าง ถ้ายังไม่ถูกใจ ให้คลิ๊กที่ปุ่ม สามเหลี่ยมด้านหลัง จะมีชื่อสีสำเร็จรูปต่าง ๆ เราก็คลิ๊กไป แล้วด้านล่าง จะแสดงสีของชื่อนั้น ถ้าเราถูกใจ ด้านขวาให้คลิ๊กที่ปุ่ม ตกลง เครื่องจะกลับมาที่หน้าต่าง แรก ให้เราคลิ๊กปุ่ม ตกลงด้านล่างอีกทีเครื่องก็จะใส่สีของผนังที่เราเลือกไว้


d. ถ้าเราต้องการจะเปลี่ยนสีของฐานของแท่ง ก็ทำเหมือนกัน คือ ให้เม้าส์ชี้ที่ด้านล่างระหว่างแท่ง เครื่องจะขึ้นคำว่า พื้น จากนั้นก็ดับเบิ้ลคลิ๊กทำตามขั้นตอนด้านบนอีกที


3. ถ้าต้องการเปลี่ยนสีด้านนอกของกราฟ


a. ให้เลื่อนเม้าส์ไปวางตรงมุมบนขวาภายนอกของกราฟ จะขึ้นคำว่า พื้นที่แผนภูมิ


b. ดับเบิ้ลคลิ๊กสองที จะขึ้นหน้าต่าง จัดรูปแบบพื้นที่แผนภูมิ


c. ลงมาคลิ๊กที่ปุ่ม เติมลักษณะพิเศษ จะขึ้นหน้าต่างซ้อนขึ้นมา ชื่อว่า เติมลักษณะพิเศษ


d. ด้านบน คลิ๊กที่หัวข้อ พื้นผิว เครื่องจะขึ้นพื้นผิวต่าง ๆ ให้เราเลือก เมื่อเลือกเสร็จแล้ว ให้คลิ๊กที่ปุ่ม ตกลงด้านขวามือ เครื่องจะกลับมาที่หน้าต่างแรก ด้านล่างให้คลิ๊กที่ปุ่ม ตกลงอีกที









http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=watchaischool&Cate=25&topic=10